ใคร..ไม่เคยรับประทานอาหารที่บรรจุในกล่องโฟม ยกมือขึ้น?

ข่าวแจ้งเตือนภัยธรรมชาติต่างๆ เช่น ฝนตก น้ำท่วม พายุ แผ่นดินไหว คลื่นยักษ์สึนามิ ภูเขาถล่ม ดินสไลด์ เรือล่ม และอุบัติเหตุต่างๆ
ใคร..ไม่เคยรับประทานอาหารที่บรรจุในกล่องโฟม ยกมือขึ้น?

เรียนท่านที่ซื้อแพ็คเก็จทัวร์จากภูพระนางทราเวล
วันนี้ นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวร้องเรียนกรณีซื้อแพคเกจทัวร์ จากบริษัทภูพระนางทราเวล มาจาก กทม. แล้วไม่ได้รับบริการต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ในตอนขาย
ในเบื้องต้น จ.กระบี่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ให้การดูแลนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาแล้วตามสมควร และให้ไปแจ้งความต่อ สภ.เมืองกระบี่ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
สำหรับผู้ที่ซื้อแพคเกจจากบริษัทนี้ไว้แล้ว ยังไม่ได้เดินทาง ให้ไปแจ้งความต่อกองบังคับการคุ้มครองผู้บริโภค(ใกล้เซ็นทรัล ลาดพร้าว) โทร.02-5133860

นักท่องเที่ยวซื้อทัวร์เที่ยวกระบี่ราคาถูกจากโรงแรมดัง โดนลอยแพ ทยอยแจ้งความเอาผิดผู้ประกอบการ ด้าน ผอ.ททท.สำนักงานงานกระบี่ ระบุยังมีนักท่องเที่ยวซื้อทัวร์เที่ยวกระบี่อีกจำนวนมากที่ยังไม่เดินทาง รวมกว่า 5,000 แพกเกจ
วันที่ 30 มีนาคม 2557 นางวิยะดา ศรีรางกูล ผอ.ททท.สำนักงานกระบี่ นายอมฤต ศิริพรจุฑากุล ประธานสภาการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ และนายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ได้นำนักท่องเที่ยว จำนวน 50 ราย เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.ชาติชาย นาคปักษี สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ เพื่อให้ดำเนินคดีต่อโรงแรมภูพระนาง รีสอร์ทแอนด์สปา เลขที่ 223 ม.5 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ หลังลอยแพนักท่องเที่ยว โดยมีนายประทีป หรือต้น ไม่ทราบนามสกุล เป็นเจ้าของ
นางวิยะดา ศรีรางกูล ผอ.ททท.สำนักงานกระบี่ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์โรงแรมภูพระนาง รีสอร์ท แอนด์สปา ลอยแพนักท่องเที่ยวเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว แต่ที่ไม่เป็นข่าว และนักท่องเที่ยวไม่ติดใจเข้าแจ้งความ เนื่องจากทางโรงแรมสามารถตกลงกับนักท่องเที่ยวที่จองแพกเกจทัวร์กับโรงแรมดังกล่าวได้ แต่เมื่อวานนี้ (29 มีนาคม) และต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ได้มีนักท่องเที่ยวที่จองแพกเกจไว้เดินทางมาเป็นจำนวนมาก ร่วม 100 ราย ปรากฏว่า ทางโรงแรมไม่สามารถจัดที่พัก และโปรแกรมทัวร์ให้ได้ตามที่ได้ตกลงกันไว้ ทั้งที่ลูกค้าได้จ่ายเงินครบแล้ว จึงได้ร้องเรียนผ่าน ททท.และนำเข้าแจ้งความดังกล่าว
ด้านนายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้ตั้งชุดเฉพาะกิจในการทำงานร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ และทางภาคธุรกิจการท่องเที่ยว รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งความเอาผิดโรงแรมภูพระนางฯ ในฐานะฉ้อโกงประชาชน นอกจากนี้ ทางจังหวัดกระบี่ จะทำหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงานที่มีการจัดงานในงานส่งเสริมการขายต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดให้มีการตรวจสอบการออกบูทของบริษัททัวร์ต่างๆ ว่ามีความเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน ทราบว่ามีการขายแพกเกจทัวร์ไปแล้วกว่า 5,000 ราย
ทั้งที่ เมืองทองธานี และศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่เป็นงานด้านการท่องเที่ยวทั้งหมด และก็จะแจ้งไปยังเจ้าของงานว่า บริษัทภูพระนางทัวร์ เป็นผู้กระทำความผิดหลอกลวงนักท่องเที่ยวมาก่อนให้ระมัดระวัง ภาคเอกชนที่จะเข้าไปร่วมงาน เมื่อขายไปแล้วไม่รับผิดชอบนักท่องเที่ยว ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ จึงอยากจะเตือนนักท่องเที่ยวให้มีการตรวจสอบ ระมัดระวัง อย่าซื้อทัวร์ในราคาที่ต่ำกว่าปกติ ต้องตรวจสอบว่าโรงแรม บริษัททัวร์นั้นให้บริการในราคาที่ซื้อไปจริงหรือเปล่า
นายธนาธิพย์ ศรีแสงวัฒน์ อายุ 32 ปี ประกอบธุรกิจส่วนตัว กล่าวว่า ตนได้เดินซื้อบริการทัวร์มาเที่ยวกระบี่ ในราคาแพกแกจที่ 2,999 บาท อาหารพร้อมที่พัก บริการนำเที่ยว 7 เกาะ เมื่อเดินทางมาถึงกระบี่ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 57 มีรถจากโรงแรมกระบี่ภูพระนาง รีสอร์ทแอนด์สปา ไปรับ แต่เมื่อไปถึงกลับไม่มีที่พักให้ รู้สึกว่าโดนหลอกเสียแล้ว โดยพยายามติดต่อทางบริษัททัวร์ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงต้องหาโรงแรมที่พักใหม่ เดินทางไปท่องเที่ยวเองทั้งหมด จนมาเจอทาง ททท.สำนักงานกระบี่ ได้เข้ามาช่วยเหลือพามาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อบริษัททัวร์ และโรงแรมดังกล่าว เชื่อว่ายังมีนักท่องเที่ยวอีกมากมายหลายคนที่ซื้อแพกแกจดังกล่าวเพื่อมากระบี่แล้วประสบปัญหาเหมือนตนเอง
ขณะที่ พ.ต.ต.ชาติชาย นาคปักษี สารวัตรเวรสอบสวน เปิดเผยว่า หลังจากรับแจ้งความแล้วก็จะนัดสอบปากคำผู้เสียหาย พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน หากเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนก็สามารถออกหมายจับเข้าของโรงแรม และพวกได้ทันที แต่หากไม่เข้าข่ายก็จะออกหมายเรียกมาสอบปากคำต่อไป ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก รวมกว่า 80 ราย แต่อย่างไรก็จะเร่งทำคดีโดยเร็ว ซึ่งในเบื้องต้นก็ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว
ขอบคุณ: ห้องข่าวกระบี่
เตือน! น้ำมันรั่วอุดมสารพิษ แนะใช้จุลินทรีย์สลายแบบเม็กซิโก
กระทรวงวิทยศาสตร์ฯ ออกโรงเตือนน้ำมันรั่วอุดมสารพิษ ขืนบริโภคมีสิทธิ์สะเทือนถึงดีเอ็นเอ แนะใช้จุลินทรีย์ย่อยสลาย ตามแบบเม็กซิโกโมเดล…
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ.ศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (ทีเซลล์) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วในทะเลบริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง ว่า สารเคมีจากน้ำมันและการกำจัดประกอบด้วยหลายอย่างที่ซับซ้อนซึ่งมีส่วนที่เป็นพิษ (Toxic compounds) มีสิ่งที่จะส่งผลกระทบได้เยอะมากกับสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ดังนั้นกระบวนการกำจัดจึงต้องวางแผนให้ดีอย่างรอบคอบ เป็นขั้นตอนแต่ก็รอช้าไม่ได้เพราะผลกระทบต่อชีวิตทั้งในทะเลและบนบกจะเกิดขึ้นทันทีโดยเฉพาะอาหารทะเล ที่จะได้รับสารพัดสารเคมีที่มีอยู่ในน้ำมันดิบ โดยเฉพาะสารพิษในกลุ่ม ไฮโดรคาร์บอน เช่น “พีเอเอช(PAHs)”ซึ่งสิ่งมีชีวิตในทะเลที่ทำมาหากินอยู่บริเวณที่มีน้ำมันรั่วก็มีสิทธิ์ปนเปื้อนเข้าไปได้สูงและจะจับสะสมอยู่ในไขมันปลา, ไข่ปลา, ไข่กุ้ง, ไข่ปู ตามองคาพยพหลายส่วนของสัตว์น้ำ และเมื่อมันตายจากพิษน้ำมันดิบตัวมนุษย์ที่จับเหล่านี้ขึ้นมากินก็มีสิทธิ์ ได้รับช่วงสารเคมีที่ว่านี้ต่อเช่นกัน
“อย่าลืมว่าน้ำมันดิบไม่ได้จับอยู่แค่ผิวหน้ามหาสมุทรเท่านั้น ที่ท่านเห็นกระเพื่อมดำมะเมื่อมอยู่นั้นเป็นเพียงส่วนเดียว แต่มันยังมีส่วนที่ทำปฏิกิริยากับแสงแดด จนเปลี่ยนเป็นสารพิษอันตรายและพิษ อีกส่วนก็ระเหยคือลอยล่องขึ้นสู่อากาศ ดังนั้น มันจะกลายเป็นมลพิษที่เรามองไม่เห็นแต่สูดได้เข้าไปในทางเดินหายใจ พิษพวกนี้เข้าไปกวนได้ถึงระดับ “ดีเอ็นเอ (DNA)” ที่อยู่ลึกล้ำในเซลล์สิ่งมีชีวิตส่วนไอระเหยน้ำมันรั่วที่ว่าถ้าสัมผัสก็ทำให้เกิดอาการแสบหูแสบตาระคายเคืองเนื้อเยื่ออ่อน, เจ็บคอ และแสบจมูก เมื่อสูดเข้าปอดและส่วนหนึ่งทำอันตรายระบบประสาท ทำให้มีคลื่นไส้อาเจียนได้ด้วย” นพ.กฤษดา กล่าว
ผอ.ศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์ฯ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง คือสัตว์ทะเลจะลดลง เนื่องจากไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ สารพิษทั้งหลายที่เกิดจากน้ำมันดิบ ก็ทำให้มันค่อยๆ พากันตายลง การทำประมงรวมถึงแหล่งประมงที่มีจำกัดอยู่แล้วก็จะยิ่งน้อยลง จึงไม่น่าแปลกใจที่ผลผลิตที่ได้จะหายไปมาก อาหารที่จะมาจุนเจือเลี้ยงคน ก็ลดลงตามไปด้วย นอกจากนี้ ชีวิตผู้คนแถบริมทะเล เช่นป่าชายเลน สัตว์น้ำ รวมถึงนก ปลาโลมา และเต่าทะเล ที่หากินตามชายฝั่งที่ใกล้สูญพันธุ์ระบบนิเวศ จะได้รับผลกระทบโดยตรง และแน่นอนว่าในภาพรวมของการท่องเที่ยวอุตสาหกรรมก็จะมีปัญหา ที่ต้องเร่งเยียวยาทั้งเฉพาะหน้าและระยะยาว นอกจากนี้ สิ่งที่ไม่ควรลืม คือ ผลกระทบต่อสภาพจิตใจของคน จากภาวะตกงาน ธุรกิจฟุบหมดแหล่งทำมาหากิน อาหารการกินร่อยหรอ การแก้ปัญหาจึงต้องเร่งฟื้นฟูจิตใจในรายที่มีภาวะเครียด และซึมเศร้าแฝงมาด้วย
นพ.กฤษดา กล่าวว่า การวางแผนแก้ไขและฟื้นฟู ไม่เพียงแต่เร่งขจัดด้วยไฮเทคหลากหลายวิธีจะดีเสมอไป อาจทำให้ยิ่งแย่หนักกว่าเดิมได้ ทั้งนี้ ขึ้นกับหลายปัจจัยเช่นปริมาณของน้ำมัน, ชนิดของน้ำมัน, กระแสน้ำ, กระแสลมและสถานที่นั้นๆ หนึ่งในวิธีที่ช่วยล้างพิษของน้ำมันรั่วที่เริ่มใช้กันมากคือใช้ “จุลินทรีย์” ช่วยเก็บกวาด มีการศึกษาถึงจุลินทรีย์ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Alcanivorax borkumensis เป็นจุลินทรีย์ช่วยย่อยไฮโดรคาร์บอนคราบน้ำมัน โดยใส่จุลินทรีย์ที่ช่วยย่อยคราบน้ำมันลงไป แล้วปล่อยให้มันทำงานสลายน้ำมันที่เลอะเทอะนี้ไปเรื่อยจนหมด ซึ่งเคยมีเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นที่อ่าวเม็กซิโก ก็ใช้วิธีการเดียวกันนี้ในการแก้ไขปัญหา ดังนั้น ทางเดียวที่จะทำได้ในตอนนี้ คือต้องช่วยกันมองให้รอบถึงผลกระทบของน้ำมันที่อาจมีได้ในทุกด้าน ยิ่งมองได้กว้างเท่าไร ก็ยิ่งตีกรอบแก้ปัญหาให้ครอบคลุมเท่านั้น เพราะถ้ากลับมามองให้ดีว่าน้ำมันดิบก็เป็นของธรรมชาติ ดังนั้น ก็น่าจะใช้ธรรมชาติด้วยกันช่วยปราบ
“เชื้อแบคทีเรียอัลคานิโวแร็กซ์ (Alcanivorax) มีพบมากในมหาสมุทรเชื้อนี้ชอบกินคราบไขมันเป็น อาหาร ซึ่งเรื่องนี้คณะนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันนำโดย เทอรี่ ฮาเซนเพิ่งค้นพบเมื่อตอนที่น้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโกพอเอาตัวอย่างน้ำทะเลใน บริเวณนั้นมาตรวจแล้วพบเชื้อกินน้ำมันรั่วนี้มากมาย ถึง 16 ชนิด ด้วยกันเพียงแค่ 1 เดือน หลังเหตุการณ์น้ำมันรั่วเท่านั้น สำหรับที่อยู่ของพวกมันลึกประมาณ 1 กิโลกว่าใต้ผิวน้ำ แบคทีเรียกลุ่มนี้มีชื่อว่า “โอเชียโนสไปราลลีส (Oceanospiralles) ซึ่งเชื้ออัลคานิโวแร็กซ์ที่กล่าวถึงข้างต้นก็อยู่ในกลุ่มนี้ มีความสามารถในการกินน้ำมันดิบได้ดี โดยมีข้อจำกัดอยู่บ้างคือมันย่อยได้ เฉพาะสารกลุ่มไฮโดรคาร์บอนในน้ำมันดิบ ดังนั้น ที่ไหนมีน้ำมันดิบ ถ้ามีเชื้อ ที่ว่านี้อยู่มันก็จะเจริญเติบโตได้ดี เหมือนกับมีแหล่งบุฟเฟ่ต์ขนาดยักษ์ให้มันกินอย่างไม่อั้น ซึ่งมันอาจเป็นทางออกของปัญหาน้ำมันรั่วได้” นพ.กฤษดา กล่าว.
โดย: ทีมข่าวการศึกษาไทยรัฐ
31 กรกฎาคม 2556,
แจ้งผู้ใช้รถใช้ถนน หลีกเลี่ยงเส้นทาง เพหลา-ทับไทร พื้นที่คลองท่อม กระบี่
มีน้ำมันหกบนพื้นถนน ทำให้รถเกิดอุบัติเหตุหลายราย
ขณะนี้ ทางตำรวจจราจร ได้ปิดเส้นทาง เพหลา-ทับไทร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้อย่างสะดวก
ขอให้ผู้ใช้เส้นทางดังกล่าว เปลี่ยนไปใช้เส้นทาง คลองท่อม-ลำทับ แทน
จิระศักดิ์ สินสักศรี
นักวิทยุสมัครเล่น/ทีมกู้ชีพกระบี่ รายงาน
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ เปิดเผยถึงคลื่นลมแรงซัดเรือเสียหายหลายสิบลำและนักท่องเที่ยวติดเกาะกว่า 100 คน เมื่อวันที่25 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ทุกภาคส่วนร่วมมือดีในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวด้วยความเรียบร้อยและปลอดภัยทุกคน ส่วนเรือที่ได้รับความเสียหายนั้น ทางอำเภอเมืองและองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ไสไทย ได้เปิดให้เจ้าของเรือที่ถูกคลื่นซัดจมทะเลมาลงทะเบียนขอรับการช่วยเหลือเพิ่มเติม เนื่องจากยังมีบางรายตกค้างจากวานนี้ โดยวันนี้ (26 พ.ค.) เรือหางยาวบริการนำเที่ยวกว่า 500 ลำ ตามเกาะแก่งในตำบลอ่าวนาง อาทิ ทะเลแหวก เกาะปอดะ เกาะไก่และเกาะทับ หยุดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากสภาพอากาศยังครึ้มฟ้าครึ้มฝน ส่วนเรือโดยสารขนาดใหญ่ไปเกาะพีพีและเกาะลันตายังคงให้บริการตามปกติ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ทางสมาคมฯ จะบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเพื่อให้การช่วยเหลือทันทีที่เกิดภัยทางทะเล.- สำนักข่าวไทย
พายุเข้ากระบี่ คลื่นสูง 2 – 3 เมตร กวาดเรือหางยาวที่จอดรับส่งนักท่องเที่ยว เสียหายรวม 64 ลำ มีนักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ รวม 138 คน นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ประสาน กู้ภัย อบจ.กระบี่ ช่วยเหลือนำนักท่องเที่ยวส่งขึ้นฝั่งเรียบร้อยปลอดภัย
เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 25 พฤษภาคม 2556 เวลาประมาณ 13.45 น. จ.กระบี่ สภาพอากาศค่อนข้างแปรปรวน มีแดด ลม และฝน สลับกันตลอดทั้งวันและได้เกิดฝนตกพายุพัดจากในทะเลอันดามันขึ้นมาบนชายฝั่ง ทำให้เกิดคลื่นลมแรงสูง 3 – 4 เมตร ทำให้เรือหางยาวที่รับส่งนักท่องเที่ยวที่จอดอยู่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวน้ำเมา ตำบลไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือที่จะไปยังอ่าวไร่เลย์ ได้รับความเสียหายกว่า 64 ลำ
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า พายุดังกล่าวพัดอยู่ประมาณ 5 นาที คลื่นขึ้นสูงราว 3-4 เมตร และเป็นที่จังหวะน้ำขึ้นสูง ส่งผลให้คลื่นได้กระแทกเรือหางยาวที่จอดเรียงรายอยู่ที่ริมชายหาดแตกเสียหาย รวมทั้งสิ้น 64 ลำ มีนักท่องเที่ยวที่ติดเกาะรวม 137คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 38 คน ชาวต่างชาติ 99 คน
นายวีระ ชัยพัทลุง อายุ 43 ปี ผู้ประกอบการเรือหางยาวที่เกาะพีพี ที่ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้เกิดฝนตกลงมาและมีคลื่นลมแรง จากนั้นคลื่นสูงประมาณ 3 เมตร ได้ซัดเข้าฝั่งเป็นเหตุให้เรือที่จอดหน้าหาดได้รับความเสียดังกล่าว
พ.ต.ท.ชัยสิทธิ์ ฆานเจริญ สารวัตรสถานีตำรวจน้ำกระบี่ ได้รับแจ้งว่า เรือรับส่งนักท่องเที่ยว ที่เดินทางไปเกาะห้อง อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ต.เขาทอง อ.เมือง จ.กระบี่ ได้รับความเสียหายอีก 8 ลำ ส่งผลให้ นักท่องเที่ยว ที่เดินทางไปติดเกาะ ดังกล่าวอยู่จำนวนกว่า 100 คน ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังนำเรือตรวจการณ์ 523 ออกเดินทางไปช่วยเหลือแล้ว

ขณะเดียวกัน นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ผู้ประกอบการนำเที่ยว ได้นำเรือเร็วของตนเอง “เกาะพีพีทัวร์” พร้อมทั้งได้ประสานกับ นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดกระบี่ ร่วมกับกองป้องกันบรรเทาสาธารณภัย อบจ กระบี่ รองกิตติชัย เอ่งฉ้วน ศูนย์ประสานการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว อบจ. กระบี่ นายชัยศักดิ์ แสวงผล ร่วมกันนำเรือช่วยเหลือผู้ประสบภัยและนักท่องเที่ยวติดเกาะที่เกาะห้อง ในเขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี มีนักท่องเที่ยวติดเกาะ 137 คน เนื่องจากเรือหางยาวที่รับส่งนักท่องเที่ยวได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะนี้ได้ลำเลียงรับนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งแล้ว ด้วยความปลอดภัย เนื่องจากกลางทะเลมีคลื่นลมแรง
ในช่วงนี้ทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือเรือเล็กงดออกจากฝั่ง สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นลมแรงได้แก่เกาะพีพี มีเรือล่ม 10 ลำ และ อ่าวน้ำเมา ต.ไสไทย ประมาณ 60 ลำ ซึ่งจะได้ตรวจสอบความชัดเจนอีกครั้ง ขณะที่เรือรับนักท่องเที่ยวบริเวณอ่าวต้นไทร หมู่เกาะพีพี อีกเกือบ 20 ลำ ได้รับความเสียหายจากคลื่นลมแรง เบื้องต้นมีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่มีรายงานผู้สูญหายหรือเสียชีวิต
ขอบคุณภาพจาก ประชาสัมพันธ์ อบจ.กระบี่

อุตุฯเตือน 5 จว.ใต้ฝนหนัก น้ำท่วมฉับพลัน
กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และระนอง มีฝนตกหนักต่อเนื่องอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในบางพื้นที่
เมื่อเวลา 06.00 น.วันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นต่อไปอีกกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ อ่านเพิ่มเติม “อุตุฯเตือน 5 จว.ใต้ฝนหนัก น้ำท่วมฉับพลัน”